วันศุกร์ที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2555


แบบฝึกหัด
 เรื่อง  สื่อมวลชนเพื่อการศึกษา

1. สื่อมวลชนเพื่อการศึกษามีกี่ประเภท อะไรบ้าง
          สื่อมวลชนเพื่อการศึกษามี 6 ประเภท คือ
          1. สิ่งพิมพ์ ได้แก่ หนังสือพิมพ์ วารสาร นิตยสาร หนังสือ และสิ่งตีพิมพ์ประเภทอื่นๆ
          2. ภาพยนตร์ ทั้งภาพยนตร์เรื่อง ภาพยนตร์สารคดี และภาพยนตร์ทางการศึกษาบางประเภท
          3. วิทยุกระจายเสียง ได้แก่วิทยุที่ส่งรายการออกอากาศ ทั้งระบบ AM และ FM รวมไปถึงระบบเสียงตามสาย 
          4. วิทยุโทรทัศน์ เป็นสื่อทางภาพและทางเสียงที่เผยแพร่ออกไป ทั้งประเภทออกอากาศและส่งตามสาย
          5. สื่อสารโทรคมนาคม เป็นผลจากความก้าวหน้าด้านเทคโนโลยี มีการส่งข้อความ เสียง ภาพ ตัวพิมพ์ สัญลักษณ์ต่างๆ ได้หลากหลาย ครอบคลุมกิจการสื่อสารผ่านดาวเทียม โทรภาพ โทรพิมพ์
          6. สื่อวัสดุบันทึก ได้แก่เทปบันทึกเสียง เทปบันทึกภาพ แผ่นบันทึกเสียง แผ่นบันทึกภาพ ซึ่งกลายเป็นสื่อมวลชน เพราะเทคโนโลยีที่ก้าวหน้าทำให้สามารถผลิตเผยแพร่ได้มากและรวดเร็ว

2. คุณค่าของสื่อมวลชนเพื่อการศึกษามีอะไรบ้าง จงอธิบาย
           1. การเพิ่มของประชากร ในระบบโรงเรียน  การสื่อสารมวลชนนั้นสามารถแพร่กระจายข่าวสารอย่างรวดเร็ว สู่คนจำนวนมาก

           2.  เปิดโอกาสทางการศึกษาให้กับบุคคลทุกเพศ ทุกวัย โดยเป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต
           3. ในบางสถานศึกษาอาจจะขาดแคลนบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในด้านในด้านหนึ่ง ดังนั้นสื่อสารมวลชนเปิดโอกาสให้นำรายการสอนจากผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางไปสู่ห้องเรียนตลอดจนถึงชุนนุมต่างๆ
           4.  ช่วยปัญหาการขาดแคลนวัสดุทางการศึกษา
           5.  การศึกษาเมื่อถูกจัดอยู่ในรูปแบบของสื่อสารมวลชนจะทำให้กระจายได้ดียิ่งขึ้น
           6.  ข่าวสารใหม่จะถูกอัพเดทอย่างรวดเร็วโดยสื่อสารมวลชน ดังนั้นทำให้เราสามารถรู้ทันข่าวสารต่างๆ ได้อย่างรวดเร็วและถูกต้อง
           7.  ความก้าวหน้าของสื่อสารมวลชนสามารถตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างทั่วถึง โดยมีการสอดแทรกเนื้อหา สาระที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ชม และมีการนำเทคนิคการนำเสนอใหม่ๆ มานำเสนอตลอดเวลา
3.ให้นิสิตยกตัวอย่างสื่อมวลชนเพื่อการศึกษามา 1 รายการ พร้อมอธิบายประโยชน์ของรายการนั้น ๆ

          ดูให้รู้รายการที่ทำให้เรียนรู้ญี่ปุ่นในอีกรูปแบบที่คุณอาจไม่เคยรู้ ไม่เคยเห็นมาก่อน จะพาไปดูสังคม วิถีชีวิต ศิลปวัฒนธรรม และเทคโนโลยีอันทันสมัยต่างๆ ในการพัฒนาประเทศของญี่ปุ่น ที่สามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ พาไปสัมผัสเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวธรรมดาไม่สามารถสัมผัสได้ จะได้เคล็ดลับทักษะต่างๆ ที่สามารถปรับนำมาใช้ในชีวิตประจำวันหรือเพื่อการพัฒนาตนเองได้ นำเสนอโดยหนุ่มลูกครึ่งญี่ปุ่น-ไทย ที่มีประสบการณ์รู้จักทั้ง 2 ประเทศดี และต้องการนำเสนอแง่มุมที่มากกว่าการไปเที่ยวญี่ปุ่น เพื่อให้ได้รู้จักญี่ปุ่นในหลากแง่มุมมากยิ่งขึ้น   โดยใช้วิธีคิดที่สร้างสรรค์ การคิดนอกกรอบ และลักษณะนิสัยแบบคนญี่ปุ่น ที่จริงจัง ตั้งใจ มีระเบียบวินัยและความรับผิดชอบ



แบบฝึกหัด
 เรื่อง โทรคมนาคมเพื่อการศึกษา

1. โทรคมนาคม หมายถึงอะไร และมีประโยชน์ทางการศึกษาอะไรบ้าง
          โทรคมนาคม หมายถึง การส่งสารสนเทศในรูปแบบของตัวอักษร ภาพ เสียงโดยใช้กระบวนการที่หลากหลาย เช่น คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า พลังงานไฟฟ้า หรือเคเบิลใยแก้วนาแสง ดาวเทียม เป็นต้น ไปยังผู้รับสารที่ต้องการเรียนรู้หรือการจัดการศึกษาในรูปแบบต่าง ๆ
          ประโยชน์ทางการศึกษา คือ ผู้สอนสามารถนำเทคโนโลยีเหล่านี้มาจัดกระบวนการเรียนการสอนที่ทันสมัย ตามยุคโลกาภิวัฒน์ เทคโนโลยีสื่อสารเพื่อการศึกษา เป็นแหล่งเรียนรู้ให้ผู้เรียนได้สืบค้นหาความรู้ได้อย่างกว้างขวาง สามารถสืบค้นได้ทุกเวลา ทุกสถานที่ และทุกบุคคล สถานศึกษาทุกแห่งมีเทคโนโลยีสื่อสารเพื่อการศึกษาอย่างพอเพียง จะทำให้คุณภาพทางการศึกษาของประเทศไทยก้าวหน้ายิ่งขึ้น

2. การใช้ Facebook เป็นโทรคมนาคมเพื่อการศึกษาหรือไม่ ถ้าเป็นจงยกตัวอย่างประโยชน์ของ Facebook
          การใช้ Facebook สามารถเป็นโทรคมนาคมเพื่อการศึกษาได้ เพราะ Facebook เป็นการประชุมทางไกล เป็นเทคนิคที่ใช้ในการสื่อสารระยะไกล เป็นการผสมผสานของสัญญาณภาพ สัญญาณเสียง และข้อมูลผนวกกับเทคโนโลยีของเครือข่าย สามารถสื่อสารเพื่อตอบสนองความต้องการของมนุษย์ที่สามารถโต้ตอบกันในแบบ Real time ระหว่าง 2 กลุ่ม หรือมากกว่าซึ่งอยู่ห่างไกลกัน และทำให้ผู้ที่ห่างกันสามารถติดต่อสื่อสาร รับข้อมูลข่าวสารกันและกันได้ 

3. นิสิตสามารถรับชมโทรทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียมได้ด้วยวิธีทางใดบ้าง
          1. ระบบ dSTV เป็นระบบโทรทัศน์ผ่านจานดาวเทียม
          2. ระบบ CATV เป็นระบบโทรทัศน์ผ่านสายเคเบิล
          3. ระบบเครือข่ายอินเตอร์เน็ต

4. ประโยชน์ของโทรทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียมมีอะไรบ้าง จงอธิบาย
          - เป็นวิธีการศึกษาผ่านระบบอินเตอร์เน็ตได้อีกทางหนึ่ง โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายในด้านเนื้อหาวิชา (Free-Of-Charge Web-Based Information Content)
          - สามารถแก้ไขปัญหาขาดแคลนบุคลากรทางการศึกษาที่ไม่เพียงพอต่อความต้องการของนักเรียน
          - สามารถถ่ายทอดความรู้ให้กับบุคคลต่าง ๆ และพัฒนาการศึกษาได้ครอบคลุมทั่วทั้งประเทศ 
          - เนื่องจากโทรทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียม ได้มีการจัดการศึกษาให้สอดคล้องกับสภาพปัญหา จึงทำให้สามารถปรับตัวให้เข้ากับสภาพสังคมได้ 

5. นิสิตรับชมรายการจาก http://www.youtube.com/watch?v=OvUsY7oTEQc  และจงอธิบายถึงประวัติความเป็นมาของสถานีโทรทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียมไทยคม
          สถานีโทรทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียม เกิดจากพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ด้านการศึกษาทางไกล เพื่อให้การศึกษามีความทัดเทียมกันทั่วทั้งประเทศ รวมทั้งการขาดแคลนครูในถิ่นทุรกันดารสถานีทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียมเริ่มส่งสัญญาณเป็นครั้งแรก ในวันที่ 5 ธันวาคม 2538 เพื่อเฉลิมพระเกียรติ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่ ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 50 ปี โดยก่อตั้งเป็นมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม มีการถ่ายทอดตามหลักสูตรสามัญ จากโรงเรียนวังไกลกังวลแล้ว ยังมีการถ่ายทอดหลักสูตรวิชาชีพ และรายการสารประโยชน์ต่างๆ อำนวยแก่โรงเรียนในที่ห่างไกลกว่า 3,000 แห่ง และยังมีประเทศเพื่อนบ้านที่ได้รับชมรายการโทรทัศน์ทางไกลผ่านดาวเทียมโดยรายการโทรทัศน์ได้ดำเนินตามปรัชญาการศึกษาตลอดชีวิต

6. ให้นิสิต Post รูปภาพเกี่ยวกับโทรคมนาคมเพื่อการศึกษา




แบบฝึกหัด
 เรื่อง  จิตวิทยาสีของการออกแบบสื่อการสอน

1. ถ้าต้องการออกแบบและนำเสนอ PowerPoint ถึงเรื่องราวด้านวัฒนธรรม ชุมชนโบราณ ควรใช้สีใดในการออกแบบเพราะเหตุใด จงอธิบาย
          ควรใช้สีน้ำตาลในการออกแบบและนำเสนอ PowerPoint เพราะจะให้ความรู้สึกถึงความเก่าแก่โบราณ ให้ความรู้สึกมั่นคง เรียบง่ายและสะดวกสบาย จึงเหมาะกับเรื่องราวด้านวัฒนธรรม ชุมชนโบราณ

2. ให้นิสิตหาภาพถ่ายหรือภาพวาดจาก Google Search ที่ใช้สีตัดกันมา 2 ภาพพร้อมอธิบายการสื่อความหมายของภาพ


          จากภาพเป็นการใช้สีแบบแตกต่างชนิดตัดกันอย่างแท้จริง(True Contrast) คือ โต๊ะและเก้าอี้มีสีแดงและต้นไม้ด้านหลังมีสีเขียวซึ่งเป็นสีตรงข้าวกันในวงจรสีเมื่อมองแล้วทำให้ภาพโต๊ะเก้าอี้ดูเด่นขึ้น




           จากภาพเป็นการใช้สีแบบแตกต่างชนิดตัดกันอย่างแท้จริง(True Contrast) คือ ใช้อัตราส่วนของสีที่แตกต่างกันและความหนักของสีที่แตกต่างกัน ดอกไม้มีน้ำหนักของสีมากที่สุดทำให้ดอกไม้ดูเด่นขึ้น โดยท้องฟ้าและต้นหญ้าเป็นเหมือนพื้นหลังของภาพ

3. ให้นิสิตหาตัวอย่างภาพจาก Google Search ในลักษณะการสร้างความกลมกลืน โดยใช้สีในลักษณะสภาพสีส่วนรวม (TONALITY OF COLOR) มา 2 ภาพ พร้อมอธิบายการสื่อความหมายของภาพ

 
       
           จากภาพเป็นภาพของท้องทะเลเวลาตอนเย็นให้ความรู้สึกร้อนแรงและการพักผ่อนในเวลาเย็น โทนสีของภาพโดยรวมมีสีแดงซึ่งเวลาปกติท้องทะเลมีสีฟ้าทำให้มีความรู้สึกเปลี่ยนไปจากเดิม



          จากภาพเป็นภาพวิวของทุ่งดอกบัวตองซึ่งมีสีเหลืองอร่ามตาทำให้โดยรวมดูเป็นสีเหลืองแม้ว่าสีของบ้านและสีของท้องฟ้าจะเป็นสีอื่น


แบบฝึกหัด
เรื่อง  จิตวิทยาด้านกราฟิกกับการออกแบบสื่อการสอน

1. เทคนิคการกลับพื้นภาพมีผลต่อสายตาผู้ดูอย่างไร
                 ทำให้การมองเห็นภาพสีขาวที่อยู่ในพื้นสีดำดูโตขึ้น 10-15 % สังเกตภาพตัวอักษร A ด้านล่าง ตัวอักษรดำและขาวโตเท่ากันในการทำต้นแบบ เมื่อตัว A อีกตัวหนึ่งไปอยู่ในพื้นดำ ทำให้ดูโตกว่า เทคนิคนี้นิยมนาไปใช้ทำตัวอักษรพาดหัวข่าวสำคัญในหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์


2. ให้นิสิตหาภาพ ความลึก (Perspective)  พร้อมอธิบายความหมายของภาพ

              จากภาพ คือ วัตถุใดอยู่ใกล้จะใหญ่ ถ้าอยู่ไกลออกไปจะมองเห็นเล็กลงตามลำดับจนสุดสายตา ทำให้ภาพดูสมจริงมากขึ้น

3. ให้นิสิตหาภาพ ความขัดแย้ง (Contrast) พร้อมอธิบายความหมายของภาพ



          จากภาพ คือ เป็นภาพท้องทะเลกับท้องฟ้าซึ่งท้องฟ้ามีสีเหลืองส่วนท้องทะเลมีสีน้ำเงินซึ่งดูแล้วมีสีตัดกันทำให้ภาพดูมีความคมชัดมากขึ้นชวนดึงดูดให้มอง และมีจุดศูนย์กลางคือเรือใบทำให้ภาพดูมีจุดสนใจมากขึ้นด้วย

วันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2555


แบบฝึกหัดเรื่องทฤษฎีการจัดสภาพแวดล้อมการเรียนรู้

1. ให้นิสิตบอกความสำคัญของสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ต่อการเรียนระดับปริญญาตรีสาขาศึกษาศาสตร์ 
          การจัดสภาพแวดล้อมการเรียนรู้เป็นปัจจัยที่จะช่วยให้ผู้เรียนมีความสนใจ เข้าใจ  ในเนื้อหาที่เรียนมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นแรงจูงใจให้นิสิตเกิดความอยากเรียนอยากศึกษาหาความรู้มากขึ้น

2. “การจัดสถานที่ โต๊ะ เก้าอี้ อุปกรณ์ต่าง ๆ ให้ง่ายต่อการเคลื่อนไหวโยกย้าย ทำให้ผู้สอนไปถึงตัวผู้เรียนได้สะดวก ตำแหน่งของผู้สอนไม่จำเป็นต้องอยู่หน้าชั้นเสมอไป ผู้สอนอาจนั่งอยู่ท่ามกลางผู้เรียนเพื่อให้คำปรึกษาจัดอยู่ในองค์ประกอบใดของสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ เพราะเหตุใด 
                   จัดอยู่ในองค์ประกอบของสภาพแวดล้อมทางการเรียนด้านกายภาพ เพราะมีการพูดถึงการจัด โต๊ะ เก้าอี้ และอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งของที่กล่าวมานี้อยู่ในสภาพแวดล้อมทางการเรียนด้านกายภาพ

3. ให้นิสิตยกตัวอย่างการจัดสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ รายวิชา 400202 เทคโนโลยีการศึกษา ตามองค์ประกอบของการจัดสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ 
          1.องค์ประกอบของสภาพแวดล้อมทางการเรียนด้านกายภาพ คือ มีอุปกรณ์จำพวกโต๊ะ เก้าอี้
           2. องค์ประกอบของสภาพแวดล้อมทางการเรียนด้านจิตภาพ   คือ ครูผู้สอนสร้างบรรยากาศที่ดีต่อการจัดการเรียนการสอน โดยที่ครูผู้สอนเปิดโอกาสให้นักเรียนได้ซักถาม และแสดงความคิดเห็นอย่างเต็มที่    3.องค์ประกอบของสภาพแวดล้อมทางการเรียนด้านสังคม คือ การแต่งกาบชุดนิสิตให้สุภาพ
          4.องค์ประกอบของสภาพแวดล้อมทางการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยี  คือ การใช้ Power point งาน
 e-leaning


4. ถ้านิสิตได้รับมอบหมายให้ออกแบบสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ห้องปฏิบัติการทางวิทยาศาสตร์ นิสิตจะจัดสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ ตามองค์ประกอบ 4 ด้านอย่างไร จงอธิบาย 
               1. องค์ประกอบของสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ด้านกายภาพ   คือ จัดห้องเรียนให้กว้างขว้าง สะดวกต่อการทำการทดลอง โต๊ะและเก้าอี้ควรจะจัดเป็นกลุ่มๆ เพื่อให้นักเรียนทำงานร่วมกัน มีอุปกรณ์ทางวิทยาศาสตร์ ที่ครบถ้วน มีตู้สำหรับเก็บอุปกรณ์ของนักเรียนที่แยกออกจาโต๊ะทำการทดลอง มีป้ายนิเทศเกี่ยวกับความรู้ทางวิทยาศาสตร์
                2. องค์ประกอบของสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ด้านจิตภาพ คือทักทายด้วยความเป็นกันเอง ยิ้มเยิ้มเวลาสอน
                3. องค์ประกอบสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ด้านสังคม คือ ตั้งกฎและข้อห้าม เช่นไม่นำสารเคมีออกมาเล่น ไม่นำสารเคมีออกจากห้องปฏิบัติการ
               4. องค์ประกอบของสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ด้านเทคโนโลยี  คือ  ให้นักเรียนส่งผลแลปทางอีเมล

5. แนวคิดเชิงทฤษฎีในการจัดสภาพแวดล้อมการเรียนรู้มีอะไรบ้าง จงอธิบาย
          แนวคิดเชิงทฤษฎีในการจัดสภาพแวดล้อมการเรียนรู้มี  ดังนี้
          1.แนวคิดเชิงปรัชญาการศึกษา ปรัชญาการศึกษาจะเป็นสิ่งบ่งชี้นโยบายในการจัดการศึกษา การจัดสภาพแวดล้อมการเรียนรู้จะต้องดำเนินไปให้สอนคล้องกับนโยบายนั้นๆ
          2.แนวคิดเชิงทฤษฎีทางด้านจิตวิทยาอันได้แก่ จิตวิทยาการเรียนรู้ จิตวิทยาพัฒนาการ จิตวิทยาสังคม ตลอดจนจิตวิทยาในการทำงาน หลักการต่าง ๆ ทางด้านจิตวิทยานี้จะช่วยให้เข้าใจพัฒนาการของผู้เรียนในแต่ละวัย การเรียนรู้การรับรู้เกิดขึ้นได้อย่างไร สภาพแวดล้อมที่จะช่วยเอื้อให้เกิดการรับรู้และเรียนรู้ได้ดีควรเป็นอย่างไร
          3.แนวคิดเชิงทฤษฎีการสื่อสารเนื่องจากการเรียนการสอนนั้นเป็นกระบวนการติดต่อสื่อสารหรือเป็นการสื่อความหมายระหว่างผู้เรียนกับผู้สอนหลักการต่าง ๆ ของการสื่อสารจะช่วยในการตัดสินใจเลือกสื่อหรือจัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสม เช่นหลักการที่ว่าการสื่อความหมายจะได้ผลดีต่อเมื่อ ผู้รับเกิดความเข้าใจตรงกันกับผู้ส่ง ดังนั้นผู้สอนควรทำอย่างไร จะใช้สื่อชนิดใด หรือจัดสถานการณ์อย่างไรจึงจะช่วยให้เกิดความเข้าใจและเกิดการเรียนรู้ในที่สุด
            4.แนวคิดเชิงเทคโนโลยีการศึกษา เป็นแนวคิดเกี่ยวกับระบบการเรียนการสอนที่ไม่เพียงแต่อาศัยสื่อประเภทวัสดุ อุปกรณ์เท่านั้น แต่ยังอาศัย เทคนิค วิธีการตลอดจนแนวคิดต่างๆ เพื่อมาปรุงแต่งสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ให้เป็นที่น่าสนใจ หรือเร้าความสนใจของผู้เรียน
          5.แนวคิดเชิงเออร์โกโนมิกส์ (ergonomics) ซึ่งเป็นการศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของมนุษย์กับสภาพแวดล้อมในการทำงาน G.F. McVey แห่งมหาวิทยาลัยบอสตัน ได้ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับ เออร์โกโนมิกส์และการจัดสภาพแวดล้อมการเรียนรู้ มาเป็นเวลานานเพื่อค้นหาคำตอบว่า สภาพแวดล้อมการเรียนรู้ทางกายภาพลักษณะใดจงจะเหมาะกับผู้เรียนในแต่ละระดับ เช่น ความกว้าง ความสูง ของโต๊ะ เก้าอี้ ขนาดของห้องเรียน ขนาดของห้องฉายการติดตั้งจอ ระบบเสียงในห้องเรียน ห้องฉาย สภาพแวดล้อมทางกายภาพต่าง ๆ เหล่านี้ควรมีลักษณะอย่างไรจึงจะเอื้ออำนวยความสะดวกสบาย ความปลอดภัยและการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ